นิทานเป็นสื่อที่ทรงพลัง
สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
ทั้งในด้านพัฒนาการทางกาย (ส่วนตัว) ทางสมอง และสังคมของเด็ก
ตลอดจนสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับสังคมส่วนรวม (สาธารณะ)
มีงานวิจัยเรื่องสมอง ทำให้นักวิจัยเชื่อมั่นว่าการเล่านิทานช่วยให้เด็กพัฒนากระบวนการคิดการเชื่อมโยงเรื่องราว และการจัดระบบเรื่องราวซึ่งเป็นการเพิ่มกระบวนการทำงานของสมอง
รวมทั้งมีรายงานทางประสาทวิทยาที่ค้นพบว่า
เซลล์สมองจะเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างระบบฐานข้อมูล
ที่จะทำการเก็บข้อมูลและดึงเอาข้อมูลมาใช้อย่างเป็นระบบ
เรื่องราวต่างๆ ในนิทาน ช่วยในด้านความจำของเด็ก
เนื่องจากการเล่าเรื่องนั้นจะทำให้ข้อมูลต่างๆ ดูน่าจดจำมากขึ้น
นิทานสามารถสอดแทรกข้อมูลหรือเกร็ดความรู้
เข้าไปในตัวละครและบทบาทสมมติต่างๆ
เด็กจะมีอารมณ์คล้อยตามไปกับนิทาน ซึ่งเป็นการกระตุ้นความสนใจ
และทำให้เด็กจำได้ง่ายขึ้น
เด็กจะฟังนิทานอย่างตั้งใจ และคิดวิเคราะห์เรื่องราวที่กำลังฟังซึ่งจะเป็นการพัฒนาคำศัพท์ ความเข้าใจ เพิ่มสมาธิเปิดมุมมองและโลกจินตนาการของเด็กให้กว้างขึ้นอีกด้วย
ที่สำคัญ การได้ฟังนิทานจะช่วยเพิ่มพูนทักษะทางการสื่อสาร
เด็กๆ จะเรียนรู้การแสดงออกด้านสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียง
ผ่านการเล่าเรื่อง การฝึกให้เด็กเล่าเรื่อง จะช่วยพัฒนาทักษะการพูด
และส่งเสริมความมั่นใจให้แก่เด็ก
แหล่งข้อมูล Gymboree Newsletter ฉบับที่ 12 ปี 2004 จาก FB เชียงใหม่อ่าน