“อ่านนิทานสองภาษา ไม่ดีหรือคะ?”
ทำความเข้าใจอีกทีนะครับ บางทีเขียนสั้นไปก็เข้าใจยาก
เวลาเราอ่านนิทาน เราควรอ่านภาษาเดียวไปจนจบเรื่อง
จากนั้นจะอ่านภาษาที่สองต่อก็ได้ไม่เป็นไร แล้วอ่านไปจนจบเรื่องเช่นกัน
ที่ไม่ควรทำคืออ่านไปแปลไปเพราะอาจจะไม่ได้ทั้งภาษาและไม่ได้ความสนุกอีกด้วย
.
เราอ่านภาษาเดียว เพราะที่จะเกิดขึ้นมิใช่แค่ภาษานั้น
แต่เป็น “ระบบสัญลักษณ์” หรือ symbolization
คือวิธีให้ความหมายแก่อักขระ และวิธีถอดความหมาย
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถ้าระบบนี้ตั้งมั่นได้แล้ว
ก็จะใช้ถอดภาษาที่ 2-3-4 ได้ง่ายขึ้น
.
กรณีพ่ออ่านภาษาหนึ่ง แม่อ่านภาษาหนึ่ง
หรือแม้กระทั่งพี่เลี้ยงอ่านอีกภาษาหนึ่ง ก็ได้
อ่านไปทีละภาษา ภาษาละหลายๆเดือน ก็ได้
อ่านภาษาแม่ทุกคืน แล้วอ่านภาษาที่สองเสาร์อาทิตย์ ก็ได้
สรุปคือเวลาอ่านให้ลื่นไหลไปภาษาเดียว
.
จะสังเกตได้ว่าหนังสือนิทานจาก ตปท ไม่ค่อยจะตีพิมพ์สองภาษา
เหตุเพราะอักขระจะเกะกะลานสายตาของเด็กๆ และทำให้ระบบสัญลักษณ์สะดุด
ถ้าเลือกได้เลือกที่พิมพ์สองภาษาคนละด้านน่าจะดีกว่าที่ตีพิมพ์สลับบรรทัดไป
สมมติท่านไม่รู้อังกฤษเลย ท่านอ่านไทยไปได้เลย อย่ากังวล
ภาษาแม่ดี วันหน้ารวยแล้วค่อยส่งลูกเรียนภาษาที่สองก็ไม่ยาก
หรือส่งไปอยู่ ตปท ก็ฉลุยเอง
.
สมมติท่านอ่านไทยไม่ได้ จะอ่านคำเมืองก็ได้ ไม่ต้องอาย
ภาษาแม่ดี ภาษาอื่นก็จะดีตามเมื่อมีโอกาส บ่ดีกึ๊ดนัก บ่ดีเสียใจ๋
สมมติท่านรู้แค่ภาษาจีน ก็อ่านจีนไป จะจีนอะไรก็ได้
แหม่นี้อีโอ่ยเปียงต่ากอหอสี้แล้ว เอ๊ย เหลี่ยว
สมมติท่านเปิดหน้านิทานภาษาไทย แต่อ่านออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ก็ได้
No Problem Very Good Thank you OK
อ่านให้จบก็แล้วกัน
.
เด็กๆอาจจะงงกับอักขระที่ไม่ไปกับเสียงได้
แต่ไม่น่าจะเป็นข้อห้าม เพราะสมองเด็กดีมาก
สมองเด็กดีเหลือเชื่อครับ
อ่านภาษาเดียวอย่างลื่นไหลไปข้างหน้าคือใช้ได้
เล่าก็ได้ ร้องเพลงก็ได้
แหล่งข้อมูล นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์